2010-12-25

Maserati GT MC Stradale

Maserati GT MC Stradale
สำหรับลูกค้าของค่ายตรีศูล มาเซราติ ซึ่งอาจจะยังไม่พอใจกับสมรรถนะเดิมๆ ที่สัมผัสได้จากรถสปอร์ตสุดหรูในรหัส GT หรือ Gran Turismo คราวนี้น่าจะเกิดอาการสมใจอยากกันบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อแบรนด์ดังของอิตาลีส่งทางเลือกใหม่ส่งสู่ตลาด ปรับโฉมพร้อมกับเพิ่มเรี่ยวแรงรวมถึงกลิ่นอายจากสนามให้กับ GT ด้วยเวอร์ชันที่เรียกว่า MC Stradale ซึ่งจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลกได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นต้นไป



Maserati GT MC Stradale


ผลผลิตครั้งนี้เป็นการแต่งเติมและเสริมความสปอร์ตให้กับ GT แบบเต็มยศ เพราะแต่เดิมรุ่นท็อปที่ขายคือรหัส S ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์วี8 4,700 ซีซี ส่วนในรุ่นนี้เป็นการอัพเกรดให้กับรหัส S ด้วยการเพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดแต่งรอบคันที่อิงมาจากตัวแข่งรายการ Trofeo GranTurismo MC ภายใต้แนวคิด เพิ่มม้า ลดน้ำหนัก และเพิ่มความเร้าใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องทะยานในย่านความเร็วสูง


Maserati GT MC Stradale engine

ในจุดแรกคือ การเพิ่มจำนวนม้าในคอกของเครื่องยนต์วี8 ทวินแคม 32 วาล์ว 4,700 ซีซีอีก 10 ตัวทำให้มีกำลงสูงสุดขยับขึ้นมาอยู่ที่ 450 แรงม้า ขณะที่แรงบิดสูงสุดก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในระดับ2.03 กก.-ม. มาอยู่ที่ 51.9 กก.-ม. ดูแล้วก็ไม่เห็นจะน่าหวือหวาหรือเร้าใจอะไรเลย เพราะตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาก็ไม่ได้เป็นจำนวนมากถึงขนาดทำให้อ้าปากค้าง



แต่ตรงนี้มาเซราติคอนเฟิร์มว่า GT MC Stradale ตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจขึ้นอย่างแน่นอน เพราะตัวรถถูกลดน้ำหนักลง ม้า 1 ตัวแบกน้ำหนักน้อยกว่ารุ่น GT S แถมยังมีเพิ่มอีก 10 ตัวมาช่วยแชร์ด้วย โดยน้ำหนักของ GT MC Stradale ตามสเปกอยู่ที่ 1,770 กิโลกรัม เบาขึ้นจากรุ่นเดิม 110 กิโลกรัม ขณะที่อัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังอยู่ในระดับ 48-52% เพื่อประสิทธิภาพในการทรงตัว


เบื้องหลังของการลดน้ำหนักตัวอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ และอะลูมิเนียมมาใช้ในการผลิตตัวถัง โดยเฉพาะชุดสเกิร์ตรอบคันที่ถูกออกแบบในสไตล์เดียวกับตัวแข่ง ขณะเดียวกันส่วนเกินอย่างเบาะนั่งด้านหลังถูกถอดออก โดยที่โครงเบาะคู่หน้าผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และทำให้ตัวรถกลายเป็นสปอร์ตคูเป้ 2 ที่นั่งอย่างแท้จริง ส่วนเบรกทั้ง 4 ล้อเป็นแบบคาร์บอนเซรามิกที่มีน้ำหนักเบากว่าแบบที่ผลิตจากเหล็ก และเป็นชุดเบรกที่ได้รับการผลิตจาก Brembo

Maserati GT MC Stradale interior
ระบบช่วงล่างก็ถูกปรับเซ็ตใหม่ให้รองรับกับสมรรถนะการขับที่สะใจขึ้น ส่วนเกียร์แบบคลัตช์ไฟฟ้าถูกปรับปรุงให้มีการตอบสนองในการเปลี่ยนเกียร์แต่ละตำแหน่งที่รวดเร็วขึ้นในระดับ 0.06 วินาที พร้อมโปรนแกรมการทำงานของเกียร์ในชื่อ MC Race Shift ที่ใช้อยู่ในรถแข่งก็ถูกปรับปรุงเพื่อให้สามารถใช้งานได้บนท้องถนน โดยอัตราเร่งในการทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของตัวรถอยู่ในระดับ 4.6 วินาที โดยที่ความเร็วสูงสุดขยับขึ้นมาเป็นมากกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง



Maserati GT MC Stradale interior

เดือนกุมภาพันธ์ 2011 ได้สัมผัสความแรงของ GT MC Stradale กันอย่างแน่นอน ยกเว้น 3 ตลาดที่จะไม่มีขาย คือ สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้ และแคนาดา...ตรงนี้ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย


โดย ผู้จัดการออนไลน์